Menu
ชีวิตใหม่ น้ำหนักใหม่ ความสุขใหม่
ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะโดยศัลยแพทย์ชั้นนำระดับประเทศ ประสบการณ์กว่า 10 ปี ให้การรักษามากกว่า 3,000 ราย พร้อมดูแลคุณตลอดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
สนใจรับคำปรึกษา
ลงทะเบียนด้านล่างเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
คุณสมบัติเด่น
ผ่าตัดผ่านกล้อง ฟื้นตัวไว
ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักตัวอีกต่อไป
โรงพยาบาลได้รับการรับรอง JCI จากสหรัฐอเมริกา
วิธีการผ่าตัด
การผ่าตัดแบบสลีฟ (Sleeve gastrectomy: SG)
การผ่าตัดแบบสลีฟเป็นวิธีลดขนาดกระเพาะอาหารแบบถาวร แพทย์จะผ่าตัด โดยใช้กล้องขนาดเล็กผ่านรูเจาะที่หน้าท้อง 4-5 รู แล้วตัดกระเพาะออกประมาณ 75-80% ทำให้กระเพาะมีรูปร่างเหมือนแขนเสื้อหรือกล้วย และมีความจุเหลือเพียง 150 ซีซี (จากปกติประมาณ 1-1.5 ลิตร)
ข้อดีของวิธีนี้:
การผ่าตัดแบบบายพาส (Roux-en-Y gastric bypass)
การผ่าตัดแบบบายพาสเป็นวิธีที่ซับซ้อนกว่า แต่ให้ผลลัพธ์ในการลดน้ำหนัก ที่มากกว่ามากกว่าวิธีอื่น แพทย์จะใช้กล้องขนาดเล็กผ่านรูเจาะที่หน้าท้อง 5-6 รู เพื่อทำการผ่าตัด โดยแบ่งกระเพาะเป็นส่วนเล็กๆ ขนาดประมาณ 30 มล. (1-2 ออนซ์) จากนั้นจะตัดลำไส้เล็กส่วนต้น แล้วนำปลายส่วนล่างมาต่อกับกระเพาะส่วนเล็กที่แบ่งไว้ แล้วจึงนำลำไส้เล็กส่วนต้นที่ยังติดกับกระเพาะส่วนใหญ่มาต่อกับลำไส้เล็กอีกจุด ทำให้เกิดรูปตัว Y
ข้อดีของวิธีนี้:
ชีวิตใหม่หลังการรักษา
น้ำหนักลดลง 20 กก. ภายใน 6 เดือน
ก่อนผ่า 75 กก. หลังผ่า ณ ปัจจุบัน 55 กก.
30 ปีแห่งการพัฒนาสู่การดูแลสุขภาพระดับมาตรฐานสากล
เริ่มต้นจากความตั้งใจดูแลชุมชนเมื่อสามทศวรรษก่อน เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยความมุ่งมั่นยกระดับการรักษาจนได้รับการยอมรับมาตรฐาน JCI จากประเทศประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเรามุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพในภูมิภาค พร้อมมอบการรักษาระดับสากลให้แก่คุณและครอบครัว เพราะเราเชื่อว่าสุขภาพที่ดีคือรากฐานของชีวิตที่มีความสุข
คำถามที่พบบ่อย
ผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ตั้งแต่ 32.5 ขึ้นไปและมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีค่า BMI ตั้งแต่ 37.5 ขึ้นไปโดยไม่มีโรคประจำตัว สามารถพิจารณาการผ่าตัดได้
BMI คำนวณจากสูตร: น้ำหนัก (กก.) / (ส่วนสูง (ม.))² เช่น น้ำหนัก 70 กก. ส่วนสูง 1.70 ม. BMI = 70 / (1.70 x 1.70) = 24.22 เกณฑ์สำหรับคนเอเชีย:
โดยทั่วไป ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถลดน้ำหนักได้ประมาณ 50-70% ของน้ำหนักส่วนเกิน ภายใน 1 ปีหลังผ่าตัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ตัวอย่างเช่น:
โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะต้องนอนโรงพยาบาลประมาณ 4 คืน (1 คืนก่อนผ่าตัดและ 3 คืนหลังผ่าตัด) หลังจากนั้นสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักมากกว่า 5 กิโลกรัมใน 1 เดือนแรก